ลอรีอัล กรุ๊ป เผยผลวิจัยใหม่ เกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสีผิวและฮอร์โมน ที่มีต่อผิวพรรณและหนังศีรษะของผู้หญิง ในงานประชุมแพทย์ผิวหนังโลก WORLD CONGRESS OF DERMATOLOGY
ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal) นำเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของการศึกษาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง พร้อมเผยผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อสุขภาพของผิวพรรณ ในการประชุมแพทย์ผิวหนังโลก World Congress of Dermatology (WCD) ครั้งที่ 25 วันที่ 3-8 กรกฎาคม 2566 ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ การประชุม WCD ครั้งนี้มีแพทย์ผิวหนัง นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 11,000 คน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความก้าวหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการศึกษาโรคผิวหนัง
งานวิจัยชิ้นสำคัญจาก L’Oréal Dermatological Beauty
L’Oréal Dermatological Beauty หรือแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางของลอรีอัล กรุ๊ป ได้เผยผลงานวิจัยระดับโลกด้านสุขภาพผิวพรรณ 2 งาน ซึ่งจัดทำโดยลา โรช-โพเซย์ (La Roche-Posay) และวิชี่ (Vichy) ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือลอรีอัล กรุ๊ป
- ลา โรช-โพเซย์ (ด้วยความร่วมมือกับอิปซอส (Ipsos) ผู้เข้าร่วมสำรวจภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิวด้วยตนเอง) ได้สำรวจกลุ่มคนจำนวน 48,000 คน ใน 34 ประเทศ ซึ่งเป็นการวิจัยครั้งใหญ่ที่สุดในหัวข้อนี้ที่เคยจัดทำขึ้น โดยสำรวจผลพบว่า 50% เผชิญกับภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิว เช่น โรคด่างขาว, รอยดำที่เกิดขึ้นภายหลังผิวหนังอักเสบและฝ้า และเกือบ 1 ใน 3 (28%) ระบุว่าภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิวมีผลกระทบที่รุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของตนเอง และ 44% ของผู้ที่มีภาวะผิดปกติของเม็ดสีระบุว่า ตนเองต้องทำการปกปิดส่วนผิวหนังที่มีภาวะผิดปกติ
- วิชี่ ได้สำรวจผู้หญิง 20,000 คน จาก 20 ประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิง 72% รู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาวะความเป็นอยู่ของตนเอง และผู้หญิงส่วนใหญ่ (3 ใน 4) ระบุว่า ปัญหาผิวพรรณมักจะเกิดขึ้นหรืออาการเลวร้ายมากยิ่งขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน
ลอรีอัล กรุ๊ป ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์กว่า 4,000 คน และผ่านการรับรองโดยแพทย์ผิวหนังมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ ๆ ที่จะช่วยวินิจฉัย ป้องกัน และจัดการกับภาวะผิดปกติของผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น ลอรีอัล ได้นำนวัตกรรมเพื่อการปกป้องผิว การป้องกันแสงแดด การเปลี่ยนแปลงของสีผิว และความร่วงโรยของผิวพรรณ ซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานของหลักการด้านความยั่งยืนและการยอมรับในความหลากหลายและแตกต่างมานำเสนอในการประชุมแพทย์ผิวหนังโลกครั้งนี้
นวัตกรรมส่วนผสมใหม่ และส่วนผสมพัฒนาจากหลักการวิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Sciences)
เม็กโซริล 400 (Mexoryl 400) ส่วนผสมสำคัญที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วในผลิตภัณฑ์กันแดดยูวีมูน 400 ของลา โรช-โพเซย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตัวแรกของลอรีอัลที่ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอที่มีความยาวคลื่นสูง (ultra-long UVA) และป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดจากแสงแดด มลภาวะจากแสงแดด รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ที่สามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็งผิวหนัง
โปร–ไซเลน (Pro-Xylane) โดยลอรีอัล ปารีส เป็นส่วนผสมที่มีสารออกฤทธิ์ตัวแรกที่พัฒนามาจากวิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลิตจากน้ำตาลธรรมชาติที่พบในต้นบีช โปร-ไซเลนได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว และโมเลกุลโปร-ไซเลนก็ได้รับการจดสิทธิบัตร และเป็นส่วนผสมเพื่อการชะลอวัยที่เป็นเลิศของลอรีอัล
มาเดคาสโซไซด์ (Madecassoside) ส่วนผสมในโบม ซีคาพลาสต์ บี5 ของลา โรช-โพเซย์ (Baume Cicaplast B5 by La Roche-Posay) ผลิตมาจากใบของต้นบัวบก น้ำ และเอธานอลจากอ้อย สารสกัดจากใบบัวบกนี้ขึ้นชื่อว่ามีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลม และต่อต้านการอักเสบ และช่วยรักษาผิว
ลอรีอัล กรุ๊ป มีส่วนร่วมในการประชุมแพทย์ผิวหนังโลก พร้อมกับนำเสนอข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความกังวลในเรื่องผิวพรรณจากทั่วโลก เพื่อเติมเต็มและงานที่มีความสำคัญของชุมชนศาสตร์ของโรคผิวหนัง และด้วยการวิจัยที่ครอบคลุม การคิดค้นนวัตกรรม และการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในด้านเทคโนโลยี ทำให้ลอรีอัล กรุ๊ปสามารถจัดการกับความกังวลเรื่องผิวและผมที่เป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุดของผู้คนได้ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดจุดด่างดำไปจนถึงการป้องกันแสงแดด ปัญหาสิว ผิวแห้ง และอื่น ๆ จึงทำให้ผู้คนมีความสุขกับผิวที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
“ด้วยความร่วมมือกับกลุ่มแพทย์ผิวหนัง เรากำลังยกระดับสุขภาพผิวให้กับทุก ๆ คนท่ามกลางความหลากหลายที่ไม่มีขีดจำกัด และด้วยการช่วยเพิ่มความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ยั่งยืน และบริการที่ดีขึ้น รวมทั้งสนับสนุนผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ เราจึงช่วยขยายช่องทางในการเข้าถึงสุขภาพผิวพรรณไปยังผู้คนทั่วทั้งโลกใบนี้ได้มากกว่าที่เคย” มิเรียม โคเฮน–เวลกรีน (Myriam Cohen-Welgryn) ประธานแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางระดับโลก ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าว
เกี่ยวกับลอรีอัล กรุ๊ป
ลอรีอัล กรุ๊ป ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 110 ปี เพื่อตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก ภายใต้เป้าหมายในการสร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้ ลอรีอัลกำหนดทิศทางและมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านความงามที่ครอบคลุม มีจริยธรรม สร้างความยั่งยืนให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วย 35 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก และพันธสัญญาเพื่อความยั่งยืนอย่าง L’Oréal for the Future ลอรีอัลมุ่งมั่นมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความงามอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้คน
ลอรีอัล กรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 3.228 หมื่นล้านยูโรในปี 2564 มีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงอีคอมเมิร์ซ ตลาดทั่วไป ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าปลีก และร้านค้าในสนามบิน และมีพนักงาน 85,400 คนทั่วโลก ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 20 แห่งใน 11 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยทีมงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมากกว่า 4,000 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกว่า 3,000 คน คิดค้นและพัฒนาความงามแห่งอนาคต เพื่อก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำด้าน Beauty Tech ต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.loreal.com/en/mediaroom
เกี่ยวกับลอรีอัล ประเทศไทย
ลอรีอัล ประเทศไทย เป็นสาขาของบริษัทผู้นำความงามของโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์
- แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค: ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน นิวยอร์ก
- แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง: ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมูระ, อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ และอิท คอสเมติกส์
- แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ: ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล และเคเรสตาส
- แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง: ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และเซราวี
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.lorealthailand.com และ www.facebook.com/lorealthailand