นักวิจัย มช. พบดอกหอมใหม่จากนราธิวาส “บุหงาลลิษา”
นักวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ค้นพบพืชดอกหอมชนิดใหม่ของโลกที่หายากและเสี่ยงสูญพันธุ์จากนราธิวาส ตั้งชื่อ “บุหงาลลิษา” เพื่อเป็นเกียรติแก่ ลิซ่า Blackpink ศิลปินชื่อก้องโลกชาวไทย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของนักศึกษา ป.เอก ที่ร่วมทีมวิจัย
นักวิจัยสังกัดภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผศ. ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู คุณอานิสรา ดำทองดี นักศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิชาความหลากหลายทางชีวภาพและชีววิทยาชาติพันธุ์ และคุณอับดุลรอแม บากา นักวิจัยสังกัดกลุ่มวิจัยอิสระ PdiT : Plant Diversity in Thailand พร้อมผู้ร่วมวิจัยอีกหลายคน ร่วมกันศึกษาตัวอย่างพืชดอกหอมวงศ์กระดังงา (Annonaceae) ในจังหวัดนราธิวาส
โดยบูรณาการข้อมูลสัณฐานวิทยาและวิวัฒนาการชาติพันธุ์เชิงโมเลกุลเข้าด้วยกัน พบว่ าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกจำนวน 1 ชนิด คือ บุหงาลลิษา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Friesodielsia lalisae Damth., Baka & Chaowasku โดยตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ลลิษา มโนบาล หรือลิซ่า ศิลปินชื่อดังชาวไทย วง Blackpink สังกัดวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งความมุ่งมั่นของลิซ่าเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาระดับปริญญาเอกของ คุณอานิสรา งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยอนุกรมวิธานและวิวัฒนาการชาติพันธุ์ของพรรณไม้วงศ์กระดังงาในประเทศไทยที่หายากและยังไม่เป็นที่รู้จัก เพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Willdenowia ปีที่ 53 เมื่อปี 2566
“บุหงาลลิษา” มีลักษณะเด่นคือ เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง ดอกเป็นดอกเดี่ยว มีกลิ่นหอมแรง กลีบดอกหนา สีเหลือง กลีบชั้นนอกเรียวยาว กลีบชั้นในประกบกันไม่บานออก มีความยาวประมาณครึ่งหนึ่งของกลีบชั้นนอก จากการสำรวจพบบุหงาลลิษาเพียง 2 ต้นในป่าทุติยภูมิใกล้สวนยางและสวนผลไม้ในอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ถูกตัดไป 1 ต้น ทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างยิ่ง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์และขยายพันธุ์บุหงาลลิษา ก่อนที่จะเหลือเพียงชื่อ “บุหงาลลิษา สามารถพัฒนาเป็นไม้ดอกหอมเพื่อเลื้อยพันซุ้มได้ และควรศึกษาต่อยอดเพื่อหาสารสำคัญและฤทธิ์ทางชีวภาพ อันอาจนำไปสู่การค้นพบยาใหม่ ๆ ต่อไปในอนาคต”