วว. -วช. มุ่งยกระดับท้องถิ่นไทย พัฒนาศักยภาพผู้ส่งเสริมและพัฒนาแปลงเกษตร รุ่นที่ 5 ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์
ดร.จิตรา ชัยวิมล รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง ผู้ส่งเสริมและพัฒนาแปลงเกษตร รุ่นที่ 5 ภายใต้โครงการ “การถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อสร้างผู้ส่งเสริมและพัฒนาแปลงเกษตร และผู้ประเมินแปลงเกษตรเบื้องต้น ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอินทรีย์เพื่อยกระดับท้องถิ่นไทย” ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ภาคการเกษตร มีความรู้เรื่องการปฏิบัติทางการเกษตรและเกษตรอินทรีย์อย่างมีคุณค่า รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยด้านการเกษตร ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายเพื่อให้มีผู้ส่งเสริมและพัฒนาแปลงเกษตรในระดับท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคาร Admin ชั้น 5 วว. เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี
รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม วว. กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยตระหนักถึงการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์กับคุณภาพชีวิตและการศึกษาเพิ่มมากขึ้น มีการยกระดับคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง และมีการบริโภคอาหารปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเกษตรอินทรีย์ได้ถูกกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ให้ทุกภาคส่วนร่วมปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตที่พึ่งพาการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี มาเป็นการพึ่งตนเองในการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สารอินทรีย์ทดแทนเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์ในทุกมิติ ทั้งมิติของอาหารปลอดภัย ความปลอดภัยของเกษตรกร การประหยัดค่าใช้จ่าย การฟื้นฟูนิเวศของดินและทรัพยากรธรรมชาติ และการสำนึกต่อผู้บริโภคด้านความปลอดภัย เพื่อลดการบริโภคและลดอัตราการเจ็บป่วยที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่มีสารพิษ
ทั้งนี้ปัญหาหลักคือ กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาแปลงเกษตรอย่างทั่วถึง และยังไม่ได้รับการประเมินแปลงเกษตรอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ไม่สามารถต่อยอดไปสู่การได้รับการตรวจประเมินรับรองมาตรฐานทางการเกษตรและเกษตรอินทรีย์ได้
“… วว. ขอขอบคุณ วช. ที่ได้สนับสนุนทุนดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งมีการถ่ายทอดและจัดการความรู้ การมีส่วนร่วมและการนำไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ให้มีศักยภาพในการส่งเสริมและพัฒนาแปลงเกษตรของตนเองและชุมชน เป็นการพึ่งพาตนเอง ทั้งยังช่วยสร้างอาชีพและรายได้ ตลอดจนส่งเสริมการยกระดับมาตรฐานทางการเกษตรของประเทศไทยให้ยั่งยืนต่อไป …”