วช. ให้ทุน Spearhead กับทีมวิจัย มธ. พัฒนาชุดตรวจวิเคราะห์จีโนไทป์ของหมู่เลือดระบบ Colton

วช. ให้ทุน Spearhead กับทีมวิจัย มธ. พัฒนาชุดตรวจวิเคราะห์จีโนไทป์ของหมู่เลือดระบบ Colton

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย วช. ให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนาในทุกมิติ โดยเฉพาะในแผนงานวิจัยด้านยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ที่เป็นการพัฒนาระบบบริการเพื่อการดูแลสุขภาวะด้านการแพทย์ครบวงจรและภารกิจด้านสาธารณสุขเพื่อสุขภาพชีวิตและสังคม

ซึ่ง วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยประจำปีงบประมาณ 2565 ในแผนงานวิจัยดังกล่าวฯ กับโครงการ “การพัฒนาชุดตรวจวิเคราะห์จีโนไทป์ของหมู่เลือดระบบ Colton ด้วยวิธี high resolution melting ที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยคนไทยโรคเลือดเรื้อรังที่จำเป็นต้องได้รับเลือดเป็นประจำ” โดยมี ศาสตราจารย์ (พิเศษ) พลตรีหญิง ดร.อ้อยทิพย์ ณ ถลาง จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ เพื่อพัฒนาชุดตรวจวิเคราะห์จีโนไทป์ของหมู่เลือดระบบ Colton เพื่อแก้ปัญหาในการจัดหาเลือดผู้บริจาคที่เหมาะสมและปลอดภัยให้กับผู้ป่วยที่ต้องได้รับเลือดเป็นประจำ

ศาสตราจารย์ (พิเศษ) พลตรีหญิง ดร.อ้อยทิพย์ ณ ถลาง กล่าวว่า เนื่องจากหมู่เลือดระบบ Colton มีความสำคัญในทางคลินิก โดยแอนติบอดีของหมู่เลือดระบบนี้เป็นชนิด IgG เกิดปฏิกิริยาได้ดีในขั้นตอนของ antiglobulin test แต่เซลล์มาตรฐาน screening cells และ panel cells ที่ใช้ในการตรวจแยกชนิดแอนติบอดีที่พบในผู้ป่วย ยังไม่ได้มีการระบุชนิดของอัลลีล CO*A และอัลลีล CO*B เพราะไม่มีแอนติซีรัมจำหน่าย ทำให้เกิดปัญหาในการจัดหาเลือดผู้บริจาคที่เหมาะสมและปลอดภัยให้กับผู้ป่วยที่ต้องได้รับเลือดเป็นประจำ การตรวจจีโนไทป์ของหมู่เลือดระบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

คณะผู้วิจัยจึงได้พัฒนาชุดตรวจวิเคราะห์จีโนไทป์ของหมู่เลือดระบบ Colton ด้วยวิธี high resolution melting (HRM) ที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยคนไทยที่เป็นโรคเลือดเรื้อรัง ที่จำเป็นต้องได้รับเลือดเป็นประจำ ทั้งนี้เมื่อพัฒนาวิธีการตรวจได้สำเร็จ ผู้วิจัยจะทำการตรวจโดยใช้ตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้บริจาคและผู้ป่วย ใส่ลงในชุดน้ำยาที่เตรียมขึ้นเอง และนำไปเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมแล้ววิเคราะห์ผลผ่านเครื่อง HRM ซึ่งใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง จึงสามารถระบุจีโนไทป์และทำนายว่า เป็นแอนติเจนชนิดใดได้

สำหรับจุดเด่นของงานวิจัยดังกล่าว ศาสตราจารย์พิเศษ พลตรีหญิง ดร.อ้อยทิพย์ เปิดเผยว่า ในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลความถี่ของอัลลีล CO*A และอัลลีล CO*B ในผู้บริจาคเลือดและผู้ป่วย ดังนั้นข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยนี้ จะสามารถนำเสนอในการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติได้ รวมทั้งการตีพิมพ์ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูล SCOPUS ต่อไป

ปัจจุบันคณะผู้วิจัยได้ออกแบบไพร์เมอร์ที่จำเพาะกับอัลลีล CO*A และ CO*B ของหมู่เลือดระบบ Colton สำหรับการตรวจวิเคราะห์จีโนไทป์ด้วยวิธี DNA sequencing รวมทั้งศึกษาภาวะที่เหมาะสมในการตรวจจีโนไทป์ด้วยวิธี HRM ร่วมกับวิธีพีซีอาร์เอสเอสพี (PCR-with sequence-specific primer, PCR-SSP) โดยได้ทำการตรวจในตัวอย่างดีเอ็นเอ ผู้บริจาคเลือดจำนวน 400 ราย พบว่า ผลการตรวจจีโนไทป์ของอัลลีลหมู่เลือดระบบ Colton ด้วยวิธี DNA sequencing ให้ผลตรวจที่ชัดเจนและถูกต้อง สามารถใช้เป็นตัวอย่างควบคุมคุณภาพของการตรวจวิเคราะห์จีโนไทป์ด้วยวิธี HRM และ PCR-SSP ได้ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาชุดตรวจทั้งสองวิธี

ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการวิจัยเสร็จสิ้น คณะผู้วิจัยจะร่วมมือกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ประยุกต์ใช้วิธีการตรวจจีโนไทป์หมู่เลือดระบบอื่นเพิ่มเติม สำหรับการเตรียมเซลล์มาตรฐานในการตรวจแยกชนิดแอนติบอดีในผู้ป่วยที่มีปัญหาการจัดหาเลือดที่เข้ากันได้ยากต่อไป

Loading

Share this post


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า