ขับเคลื่อน Future Food จากภายในองค์กร กระทรวง อว. โดย สอวช. ผุดโครงการรณรงค์บริโภคอาหาร Plant Based ในองค์กร หวังเป็นส่วนช่วยกระตุ้นการเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทย สู่เป้าหมาย 5 แสนล้านบาท ในปี 2570

ขับเคลื่อน Future Food จากภายในองค์กร กระทรวง อว. โดย สอวช. ผุดโครงการรณรงค์บริโภคอาหาร Plant Based ในองค์กร หวังเป็นส่วนช่วยกระตุ้นการเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทย สู่เป้าหมาย 5 แสนล้านบาท ในปี 2570

คุณสิรินยา ลิม ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจนวัตกรรม สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า กระทรวง อว. โดย สอวช. ได้มีกิจกรรมรณรงค์บริโภคอาหารโปรตีนทางเลือก (Plant Based) ในกิจกรรมและการประชุมภายในองค์กร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้คนไทยหันมาบริโภคอาหารประเภท Plant Based เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต หรือ Future Food ของไทยให้ได้ 500,000 ล้านบาท ในปี 2570

คุณสิรินยา ได้ยกข้อมูลจาก EAT Lancet ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการ การเพาะปลูก และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก ที่ระบุว่า แม้คนไทยจะทานเนื้อสัตว์น้อยกว่าหลายประเทศ แต่ก็ยังมีการบริโภคมากกว่าที่ร่างกายต้องการ และเป็นสาเหตุของโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ฯลฯ นอกจากนี้ ภาคการเกษตรยังมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) คิดเป็น 1/3 ของทั้งหมด โดย 2/3 ของ GHG ที่ภาคเกษตรสร้างขึ้นนั้น มาจากปศุสัตว์หรือการผลิตโปรตีนสัตว์ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านระบบการผลิตอาหารของเราให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง มีความหลากหลาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพและทุกคนเข้าถึงได้

โดยข้อดีของอาหาร Plant Based ในด้านสุขภาพคือ มีแคลอรี่ต่ำ คอเลสเตอรอล 0% อีกทั้งยังมีวิตามินและไฟเบอร์ ในด้านสิ่งแวดล้อม กระบวนการในการผลิต Plant Based มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการผลิตเนื้อสัตว์ถึง 10 เท่า และใช้พื้นที่ น้ำ อาหาร น้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์ ในด้านเศรษฐกิจ ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออก Future Food ซึ่งจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรผลิตวัตถุดิบใหม่ ๆ ได้อีกด้วย

สอวช. ได้ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในการจัดกิจกรรมที่มีการบริโภคอาหาร Plant Based ในสัดส่วน 30% จากอาหารทั้งหมด โดย สอวช. ได้เริ่มต้นรณรงค์เรื่องนี้จากภายในองค์กร ด้วยการบริโภคอาหาร Plant Based ในกิจกรรมและการประชุมภายในองค์กร ในสัดส่วนอย่างน้อย 30% ของมื้ออาหารปกติ เพื่อสร้างความตระหนัก และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนเป้าหมาย การสร้างมูลค่าอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม สอวช. ขอเชิญชวนหน่วยงานต่าง ๆ ที่สนใจ ร่วมขับเคลื่อนส่งต่อแนวคิดจัดกิจกรรมการบริโภคอาหาร Plant Based ตามนโยบายข้างต้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตของไทยไปด้วยกัน

“สอวช. เริ่มด้วยการจัดเมนูอาหารว่างและอาหารกลางวัน ในช่วงการประชุมภายในองค์กร ให้กับพนักงานได้ลองรับประทาน ซึ่งในเบื้องต้นได้จัดอาหาร Plant Based ในสัดส่วน 30% ของเมนูอาหารปกติ ซึ่งในปัจจุบันมีเมนูอาหาร Plant Based จากผู้ประกอบการไทยให้เลือกสรรมากมาย มีรสชาติอร่อย และดีต่อสุขภาพ อาทิ โดนัท ที่ทำจากนมข้าว น้ำถั่วชิคพี เกี๊ยวซ่า ไก่ป๊อบ ที่ทำจากถั่วเหลือง และปรุงรสชาติด้วยหัวหอม กระเทียม กุยช่าย ข้าวผัดเขียวหวานไก่ ทำจากโปรตีนถั่วเหลือง ข้าวผัดมีส่วนผสมของพริกแกงเขียวหวานเจ น้ำปลาวีแกนที่ทำจากเห็ด และน้ำตาลดอกมะพร้าว สปาเกตตีโบโลเนส ทำจากโปรตีนถั่วเหลือง ซอสมีส่วนผสมของมะเขือเทศสด ซอสมะเขือเทศเข้มข้น น้ำมันมะกอก ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยและสมุนไพร ซึ่งพนักงานต่างให้ความสนใจเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารและชื่นชอบในรสชาติอาหารอย่างมาก

Loading

Share this post


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า